บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (บริษัทโฮลดิ้ง) โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก ผู้ผลิตพลังงาน โรงไฟฟ้า และทรัพยากรโลก ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็กชั้นนำของประเทศไทย
ที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 โดยมีความสามารถหลักในการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็ก รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ นอกจากนี้ ทิศทางกลยุทธ์ของบริษัท คือ การสร้างผลงานโดยขยายขอบเขตของธุรกิจปัจจุบันให้ครอบคลุมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ/หรือโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และโครงการก่อสร้างพิเศษต่างๆ
การแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก และโครงสร้างเหล็ก
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เบสท์เทคดำเนินธุรกิจเป็นแกนหลักของกลุ่มบริษัท
และเติบโตจากการเป็นผู้ให้บริการแปรรูปชิ้นงานเหล็กที่มีมูลค่างาน 30-200 ล้านบาทสู่การเป็นผู้ให้บริการแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ตามความต้องการของลูกค้าที่มีมูลค่างาน 3,000 ถึง 10,000 ล้านบาท เบสท์เทคได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็นโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่ตั้งติดกับท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึก บนพื้นที่รวมกว่า 174,000 ตรม. และโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็กที่มีอุปกรณ์ครบครันในจังหวัดฉะเชิงเทราอีกกว่า 90,000 ตรม. ทำให้เบสท์เทคมีศักยภาพในการให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็กแก่ภาคอุตสาหกรรมหนัก เช่น อุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมเหมืองแร่ และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิก www.bteng.com
การให้บริการติดตั้งและการก่อสร้าง
เพื่อสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าผู้รับเหมาทั่วไป บริษัทจึงมีบริการงานติดตั้งและก่อสร้าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ กลยุทธ์แบบครบวงจรเฉพาะสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการในผลิตภัณฑ์ของบริษัท
และมีความต้องการติดตั้งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ณ สถานที่ก่อสร้าง ซึ่งธุรกิจการติดตั้งและการก่อสร้างจะดำเนินการโดยเบสท์เทค ซึ่งมีประสบการณ์มานานหลายทศวรรษ และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ทักษะทางเทคนิคและวิธีการก่อสร้างที่หลากหลาย บริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าหลักเป็นบริษัทชั้นนำที่เป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการ (EPC Contractor) และเจ้าของโครงการ (Project Owner)
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิก www.bteng.com
พลังงานทดแทน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังงานสะอาดเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนเราในทุกวันนี้ และเพื่อสะท้อนถึงความสำคัญดังกล่าว บริษัทจึงมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทผู้ผลิตพลังงานทดแทนหลายแห่ง
และแม้จะมีความต้องการพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน บริษัทต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆในการพิจารณาการลงทุนในบริษัทย่อยอีกด้วย เช่น การศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงิน ความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิคของโครงการ และผลกระทบต่อสังคม ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก เนื่องจากกระแสความนิยมในพลังงานสะอาดและความต้องการใช้พลังงานที่สูงขึ้น และการขยายตัวของจำนวนประชากร
บริการให้เช่าอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวก
นอกเหนือจากรายได้จากกลุ่มบริษัทแล้ว บริษัทยังมีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับให้เช่าสำหรับผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและการก่อสร้างต่างๆ
เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในเบสท์เทค บริษัทจึงซื้อสินทรัพย์บางรายการ เช่น อุปกรณ์และเครื่องจักรที่จำเป็นในการดำเนินโครงการ โดยหลังจากโครงการดำเนินการเสร็จสิ้นโดยเบสท์เทคแล้ว บริษัทยังคงเป็นเจ้าของสินทรัพย์สำคัญ ซึ่งสามารถนำมาใช้สำหรับโครงการอื่นในอนาคต หรือสามารถให้บริษัทอื่นเช่าต่อได้ อย่างไรก็ตามบริษัทให้ความสำคัญในการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เหล่านี้กับโครงการของกลุ่มบริษัทก่อน
โอกาสในการลงทุน
เนื่องจากเป็นบริษัทชั้นนำ ที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น บริษัทจึงแสวงหาโอกาสในการลงทุนที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การแสวงหาโอกาสในการลงทุนนั้น บริษัทวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ด้วยความระมัดระวัง ดังนี้
- ความเสี่ยงในการลงทุน
- การเจริญเติบโตที่มีศักยภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- ความสอดคล้องและการส่งเสริมต่อธุรกิจปัจจุบันของเรา
- บุคคลากรและทรัพย์สิน
- การกระจายความเสี่ยง
ในท้ายที่สุดการลงทุนของบริษัทจะส่งผลให้บริษัทมีการเจริญเติบโตที่ดี และให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นของบริษัทอย่างยั่งยืน