นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท” เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ผู้ถือหุ้น ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท บุคคลภายนอกที่ปฎิบัติงานให้บริษัท และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท และเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับความคุ้มครองสิทธิอย่างครบถ้วนตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกํากับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจนและเหมาะสม ดังต่อไปนี้
ขอบเขตการบังคับใช้
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลบังคับใช้กับการปฎิบัติงานของผู้บริหาร พนักงานทุกคนซึ่งรวมถึงพนักงานประจำ พนักงานสัญญาจ้างแบบระบุระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา พนักงานชั่วคราวและผู้รับเหมา และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคค
คำนิยาม
- ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลทางการเงิน เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลทางชีวภาพ IP Address รูปภาพ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมแล้ว
- ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวหรือที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล ซึ่งตามพระราชบัญญัติกําหนดไว้โดยเฉพาะว่าต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ ผลของการรั่วไหลของข้อมูลอาจมีบทลงโทษทางกฎหมายได้ ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงต่อการเลือกปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ ความคิดเห็นทางการมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกําหนด
- การประมวลผล (Processing) หมายถึง การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลเช่น การเก็บรวบรวม บันทึก จัดระบบ ใช้เปิดเผยส่งต่อการลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัททั้งนี้บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัท หมายถึง บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งบริษัทในเครือได้แก่ บริษัท เบสท์เทคแอนด์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และ บริษัท เบสท์เทคอินดัสตรีส์ จำกัด
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- ในการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และบริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น อันประกอบด้วย
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ–นามสกุล เลขบัตรประจำตัว ตำแหน่ง สถานที่ทำงาน
- ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร
- ข้อมูลที่ได้จากระบบอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น หมายเลข IP Address, Cookie
- บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนโดยให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือตามแบบวิธีการของบริษัท ในกรณีที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลบริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกําหนดไว้ซึ่งตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่
- การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อกิจกรรมในครอบครัวของบุคคลนั้นเท่านั้น
- การดำเนินการของหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ ซึ่งรวมถึงความมั่นคงทางการคลังของรัฐหรือการรักษาความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นิติวิทยาศาสตร์ หรือการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
- บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวมไว้เฉพาะเพื่อกิจการสื่อมวลชน งานศิลปกรรม หรืองานวรรณกรรม อันเป็นไปตามจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ หรือเป็นประโยชน์สาธารณะเท่านั้น
- สภาผู้แทนราษฎรวุฒิสภา และรัฐสภา รวมถึงคณะกรรมาธิการที่แต่งตั้งโดยสภาดังกล่าว ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรวุฒิสภา รัฐสภา หรือคณะกรรมาธิการแล้วแต่กรณี
- การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาคดี การบังคับคดีและการวางทรัพย์ รวมทั้งการดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
- การดำเนินการกับข้อมูลของบริษัท ข้อมูลเครดิตและสมาชิก ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัท หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพในการปฎิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ/หรือ เพื่อปฎิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกียวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
- บริษัทจะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม เว้นแต่
- ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
- เป็นการปฎิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
เปิดเผยและการส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลอื่นใดโดยปราศจากความยินยอม และจะเปิดเผยข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้เท่านั้น
- บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าวบริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับและไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น นอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้
- บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย
- หากบริษัทจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยจะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางหรือหน่วยงานปลายทางมีมาตรฐานและนโยบายในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ
การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้จัดทำ และ/หรือ เลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงานลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เปิดเผยทำลายหรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยเหตุอื่นใดเช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมายการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน และบริษัทแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำบนเวปไซต์ของบริษัท
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ตามที่กฎหมายกําหนดและตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้
- สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตน หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
- สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
- สิทธิในการให้ โอนย้าย หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
- สิทธิในการขอลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
- สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
- สิทธิในการถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้ ทั้งนี้การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
- สิทธิในการขอคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเมื่อใดก็ได้
ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัย หรือมีความประสงค์จะแก้ไข ลบข้อมูล ใช้สิทธิ หรือติดต่อเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลของท่าน กรุณาติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อนี้
593/3 ซอยรามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) ถนนรามคำแหง แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์: +662 314 2150-52 อีเมล: info@btw.co.th หรือ bteng@bteng.com